
รีวิวที่พักหลักร้อยในทตโตริ The Beehive
รีวิวที่พักหลักร้อยในทตโตริ (Tottori) The Beehive
ทตโตริเป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในภูมิภาคชูโงกุ (Chugoku) ของญี่ปุ่น การเดินทางไปทตโตริ (Tottori) สามารถเดินทางง่ายๆจากโอซาก้า เจ้าของเวบมีพาส Kansai Wide Area Pass ก็เลยสามารถใช้นั่งไปได้จนถึงสถานี Tottori แต่หากจะไปไกลกว่าสถานี Tottori พาสนี้ก็ไม่ครอบคลุมแล้วนะคะ
แม้ทตโตริชื่ออาจไม่คุ้นหูเรานักแต่ก็เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่งน่าสนใจไม่น้อย สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของทตโตริ ก็เช่น เนินทรายทตโตริ พิพิธภัณฑ์นักสืบจิ๋วโคนัน พิพิธภัณฑ์ผีน้อยคิทาโร่ ภูเขาไฟ Daisen เป็นต้น ซึ่งที่เขียนมาทั้งหมดเป็นสถานที่เด่นๆในจังหวัดทตโตริ แต่เชื่อไหมคะว่าเราไม่ได้ไปสักแห่ง 555 ฮาตัวเองจริงๆ
แต่ถึงเราจะไม่ได้ไปสถานที่สำคัญๆในทตโตริเลย แต่ๆๆๆๆเราก็มีเรื่องมาฝากนะ ก็จะมารีวิวที่พักในทตโตรินี่ไง อย่างน้อยก็ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง เราพักที่ทตโตริ 2 คืน พักตั้ง 2 คืน แต่ไม่ได้ไปเที่ยวสถานที่สำคัญดูเอาเถิด
ที่พักในทตโตริ ที่จะรีวิวในครั้งนี้คือ The Beehive ซึ่งอยูู่ห่างจากสถานีทตโตริ (Tottori Station) เพียง 550 เมตร แถวๆสถานี Tottori มีที่พักอื่นที่ใกล้กว่า เช่น Drop Inn Tottori ซึ่งอยู่ห่างจากสถานี Tottori เพียง 350 ม. แต่มันใกล้ไปค่ะเลยไม่พักอยากเดินไกลๆมีอะไรไหม555 ที่ Drop Inn Tottori ก็เป็นอีกที่ที่น่าไปพักนะคะเพราะจากรูปดูแล้วสะอาดเราชอบที่พักสไตล์แบบนี้อยู่แล้วด้วย และเกือบพักของเจ้านี้ที่โอซาก้าแล้วเหมือนกันแต่เปลี่ยนใจเสียก่อน นอกจากนี้ก็ยังมีโรงแรม APA ที่ก็อยู่ไม่ไกลจากกัน สำหรับโรงแรม The Beehive หรืออีกชื่อคือ Bird Stay Hotel คือเราไม่รู้ว่ามันมี 2 ชื่อ หรืออะไรอย่างไร เราเจอโรงแรมนี้โดยบังเอิญไม่ได้อ่านรีวิวอะไรเจอจากแอพที่จองที่พักเนี่ยแหล่ะค่ะ ดูภาพแล้วชอบเลยจัดไปซะ ไปดูที่พักกันเลยดีกว่า
การเดินทาง ไป The Beehive จากสถานีทตโตริ (Tottori Station) ให้ออกมาประตูทางออกที่มาเจอห้างไดมารูนะคะ แล้วให้เดินมาทางขวา ถ้าหันหลังให้สถานี ซ้ายมือเยื้องๆจะเป็นห้างไดมารู ให้เราเดินไปทางขวาค่ะ แล้วตรงอย่างเดียว แล้วค่อยไปหาทางม้าลายข้ามไปอีกฝั่งเพราะที่พักจะอยู่คนละฝั่งกับสถานีค่ะ
จากภาพด้านล่างเราจะเห็น Daimaru อยู่ทางซ้าย ให้เราเดินเลียบทางเลาะไปเรื่อยๆทางขวานะคะ
เดินเลาะๆไปเรื่อยๆ
จะมาเจอกับรูปปั้นนี้ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสถานี
จากตรงนี้จะเดินเลาะขวาไปเรื่อยๆ หรือจะข้ามถนนไปเดินอีกฝั่งก็ได้ คือทางม้าลายมีเป็นระยะสะดวกค่ะ จากภาพด้านล่างเราข้ามถนนมาอีกฝั่งแล้วควรข้ามตั้งแต่ตรงนี้ หรือก่อน เพราะไม่เช่นนั้นถนนมันจะข้ามยาก หรือข้ามตั้งแต่รูปบนเลยก็ได้ แถวนี้กลางคืนอาจเงียบเหงาหน่อย ใครกลัวความมืดเหมือนเราใจมันก็จะเสียๆ หน่อย เพราะตอนที่เรามาถึงมาถึงตอนมืดแล้ว และฝนตกด้วย แต่ภาพที่เห็นเรามาถ่ายวันกลับค่ะ จากภาพด้านล่างเดินตรงไปอย่างเดียว
จนมาเห็นป้ายนี้ ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักแล้ว
และเดินมาอีกนิดก็จะเจอ เดินตรงอย่างเดียว นี่คือบริเวณด้านหน้าที่พัก
ที่พักน่าอยู่มากๆเลยค่ะ สงบ และสะอาด
หน้าที่พักมีป้ายเขียนว่า The Beehive และ Bird-Stay Hotel ที่นี่เราว่ามีทั้งที่เป็นห้องรวม และห้องเดี่ยว เพราะเราเห็นเหมือนมีนักธุรกิจมาพักด้วย
ด้านหน้าประตูทางเข้ามีที่วางร่ม มีป้ายบอกจำนวนชั้นพร้อมระบุว่าแต่ละชั้นมีอะไร มีผังของชั้น 1 ซึ่งแต่ละชั้นจะมีผังบอกว่าตรงไหนเป็นอะไรนะคะ
ประตูด้านหน้าเป็นประตูอัตโนมัติ เมื่อเดินเข้าไปจะเป็นโถงใหญ่ มีพนักงานต้อนรับคอยรับลูกค้าที่เค้าเตอร์ และมี Coffee Shop เล็กๆตรงด้านขวาของทางเข้า
ด้านในก็กว้างขวาง สะอาด และดูดีทีเดียว ภาพด้านล่างตรงมุมนี้เป็น Coffee Shop
เคาเตอร์เช็คอินค่ะ มีพนักงานประจำตลอดแต่ต้องกดกริ่งเรียกพนักงานจึงจะออกมา
หลังจากเช็คอินแล้วพนักงานก็จะให้ข้อมูล และให้คีย์การ์ด + กุญแจล็อคเกอร์ + สายคล้องกระเป๋า มาให้ เราจองที่พักแบบห้องรวมหญิงซึ่งอยู่ที่ชั้น 4 และเราสามารถลงมาที่ชั้น 2 ซึ่งจะเป็นห้อง Relaxation ห้อง Business Lounge และมีตู้กดน้ำ มีห้องซักผ้ารวมอยู่ในชั้นนี้ค่ะ ที่นี่มีลิฟท์ 2 ตัวนะคะ สบายเลยคนก็น้อย
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 4 ก็จะมีผังบอกว่าชั้นนี้มีอะไรบ้าง เราชอบที่นี่มากๆเพราะเป็นโฮสเทลที่แยกแต่ละส่วนออกชัดเจน เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องที่รวมตู้ล็อคเกอร์ ห้องเก็บกระเป๋าซึ่งมีถึง 2 ห้อง คือไม่ให้นำกระเป๋าใบใหญ่เข้าไปในห้องนอน ซึ่งดีมากๆ เพราะจะได้ไม่มีเสียงจัดกระเป๋า เปิดปิดกระเป๋าให้ปวดหัว ใครจะจัดกระเป๋าก็ต้องมาจัดที่ห้องเก็บกระเป๋า แต่จะไม่ดีตรงที่ว่ามันทำให้เรามึนๆในบางครั้ง เอ๊ะ!ของบางอย่างเราเก็บไว้ในล็อคเกอร์ ของบางอย่างถูกเก็บอยู่ในกระเป๋าใหญ่บางทีต้องเดินสองสามรอบ
เราจะเข้าห้องได้ต้องใช้คีย์การ์ดแตะตรงป้ายด้านซ้ายหน้าประตูนี้นะคะ
นี่ค่ะคีย์การ์ดได้มาเป็นป้ายแขวนคอเลย สะดวกจริงๆ และได้กุญแจมา 2 ดอก เป็นกุญแจสำหรับตู้ล็อคเกอร์ กับกุญแจตู้เล็กๆที่อยู่ตรงเหนือหัวนอน
ไปดูด้านในห้องกันเลยดีกว่า ด้านในห้องรวมหญิงก็จะซอยออกเป็นส่วนใหญ่ๆ อีก 3 ส่วน และแบ่งเป็นตู้ๆ ดูไม่อึดอึดเลย ทางเดินภายในห้องปูพรม และกว้างขวาง ไม่มีกลิ่นอับของห้องหรือของพรมเลยแม้แต่น้อย
ใครพักเตียงบนที่ปีนก็แน่นหนาแข็งแรง
เตียงแต่ละเตียงถูกกั้นความเป็นส่วนตัวด้วยม่านกันที่ใช้ดึงลงมา
มาดูด้านในเตียงนอนกันบ้าง เตียงกว้างไม่อึดอัด
มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบ บนหัวเตียงมีนาฬิกาบอกเวลา มีปุ่มสำหรับปิด หรือหรี่ไฟ ซึ่งไฟในห้องสามารถเปิดปิดได้จากตรงทางเข้า หรือจากหัวเตียง มีปุ่มสำหรับหรี่หรือเพิ่มเสียงเพลงซึ่งเป็นเพลงบรรเลงที่เปิดมาจากส่วนกลาง ด้านซ้านมือตรงหัวเตียงจะเป็นตู้เก็บของเล็กๆ มีกุญแจให้ และด้านซ้ายจะเป็นชั้นวางของ
มีผ้าเช็ดตัว ผ้าขนหนูผืนเล็กให้อย่างละ 1 ผืน มีแปรงและยาสีฟัน พร้อมมีดโกนหนวด และรองเท้าใส่เดินในห้อง
มาดูในส่วนที่เป็นห้องน้ำ กับห้องล็อคเกอร์กันดีกว่า
มาดูห้องล็อคเกอร์ก่อนนะคะ ห้องล็อคเกอร์ก็สะอาดมาก ล็อคเกอร์เป็นแบบสูงๆกว่า 160 เมตรแน่นอน
ในล็อคเกอร์มีไม้แขวนเสื้อให้
มีกระจกบานเล็กให้
ในบริเวณเดียวกันมีห้องเล็กๆ หน้าห้องมีป้ายติดว่า Changing Room คงมีไว้ให้เปลี่ยนเสื้อผ้า
ไปดูห้องน้ำ และห้องอาบน้ำกันค่ะ เปิดประตูนี้เข้ามาก็จะเจอกับห้องสุขา และห้องอาบน้ำ ซึ่งสะอาดมากๆ พื้นปูด้วยลามิเนต
ข้อดีของการที่มีคนเข้ามาพักน้อยคือทุกอย่างสะอาดมาก
ชอบพื้นห้องน้ำมาก
เป็นที่พักที่ใส่ใจคนพักมากๆทุกๆห้องสุขามีผ้าอนามัยวางไว้ให้ห้องละ 2 แผ่น
มาดูห้องอาบน้ำกันบ้างค่ะ
ซึ่งห้องอาบน้ำ กับห้องสุขาก็อยู่ในบริเวณเดียวกันภายในห้องใหญ่ที่มีประตูอีกชั้น
ภายในห้องอาบน้ำก็แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน มีไม้แขวนเสื้อให้ มีครีมอาบน้ำ ครีมล้างหน้า ยาสระผม และครีมนวด
และรู้สึกดีมากๆกับสิ่งนี้ คือด้านหน้าห้องอาบน้ำที่เป็นส่วนเปียกมีผ้าเช็ดเท้าที่วางไว้ให้หลายผืนเพื่อให้เราเปลี่ยนใช้ได้ตามความพอใจ
ครีมอาบน้ำ สระผม ครีมนวด
ด้านหน้าของห้องอาบน้ำเป็นอ่างล้างหน้า และมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับแต่งตัวพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ
มาดูห้องเก็บกระเป๋าเดินทางกันบ้างค่ะ ซึ่งมี 2 ห้อง
พาลงไปชั้น 2 ไปดูห้องอื่นๆกันบ้าง
บริเวณล็อบบี้ชั้น 2 กว้างขวางไม่หวงพื้นที่เลย
บริเวณชั้น 2 จะมีห้อง Business เป็นห้องที่ให้เราไว้นั่งทำงาน
และก็มีห้องนั่งเล่นอยู่ข้างๆกัน
มีห้องซักผ้า และตู้กดน้ำ
เราชอบที่นี่มากๆ สะอาด สงบ ดีงาม เราพักที่นี่ 2 คืน พอคืนที่ 2 ตอนเรากลับมาจากข้างนอกก็เห็นถุงนี้วางอยู่หน้าตู้นอนของเรา ตอนแรกก็คิดว่าใครมาลืมของไว้แต่พอเปิดดู เขานำของใช้ทั้งผ้าขนหนู แปรงและยาสีฟัน มีดโกนหนวด และรองเท้า มาให้เราอีกชุด เหมือนให้วันละชุด คือดีมาก แต่เราก็ไม่ได้ใช้ของใหม่ ประทับใจสุดๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะรีวิวที่พักหลักร้อยในทตโตริ อ่านแล้วอยากไปตามน้ำกันไหม ใครที่มีแผนจะไปเที่ยวในทตโตริ และกำลังมองหาที่พักในทตโตริ หรือคิดว่าไปทตโตริพักที่ไหนดี เราขอแนะนำที่นี่ The Beehive ลองพิจารณาดูนะคะ แม้ไม่ติดกับสถานีเสียทีเดียวแต่ก็ไม่ได้ไกลจนเกินไป เดินทางสะดวกที่พักสะอาด ดีงาม
ราคาที่พัก ช่างดีงาม 2 คืน เพียง 5,000 Yen คิดเป็นเงินไทยก็ 1,500 บ. คิดเป็นราคาต่อคืนคือ 750 บ. แต่คุณภาพอยากจะบอกว่า เธอดีเกินไป 555
สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมของ The Beehive ได้ที่นี่
ออกเดินทาง
– ไ ป ต า ม น้ำ –

